10 สถานที่ ตะลุยเมืองมรดกโลก จ. พระนครศรีอยุธยา ไม่ควรพลาด!
วันหยุดนี้ คุณกำลังหาที่เที่ยวอยู่หรือป่าว ลองชวนครอบครัวหรือเพื่อนที่รักการเดินทาง ไปท่องเที่ยวพักผ่อนกันที่ จ. พระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ของไทย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม ชมบรรยากาศเมืองเก่าแก่ ไหว้พระให้สุขกายสบายใจครบเครื่องได้ภายใน 1 วัน
วัดมหาธาตุ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 และต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดเมื่อปี พ.ศ. 1927 พระปรางค์วัดมหาธาตุถือว่าเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกในสมัยอยุธยา ซึ่งได้รับอิทธิพลของปรางค์ขอมมาปนอยู่
วัดพระศรีสรรเพชญ์ สร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในปีราวๆ พ.ศ.1991 โดยที่พระองค์ทรงเจียดพื้นที่ด้านหลังของพระบรมมหาราชวังจัดให้เป็นวัดประจำวังหลวง ทั้งนี้ ก็เพื่อความสะดวกสบายในการทำสังฆกรรม และ พระราชพิธีต่างๆ
วัดภูเขาทอง สมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1930 เมื่อบุเรงนองยกมาตีกรุงศรีอยุธยาได้เมื่อปี พ.ศ. 2112 นั้น ได้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขึ้นเอาไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมโกศโปรดให้ซ่อมองค์พระเจดีย์ตอนบน ให้เป็นแบบไทยพร้อมๆกันกับการบูรณะวัดขึ้น
วัดมเหยงคณ์ มเหยงคณ์ แปลว่า ภูเขาเนินดิน สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) เป็นอารามหลวง อันเป็นวัดที่สร้างถัดมาจาก วัดราชบูรณะ 14 ปี ในรัชสมัยเดียวกัน และวัดนี้นอกจากมีขนาดใหญ่โตกินบริเวณได้เทียบเท่าช้างล้อม 80 เชือกล้อมรอบแล้ว หากแต่ยังมีโบสถ์อันโอ่งโถงที่ภายในจุพระสงฆ์ได้ราว 1,000 รูป
วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง ได้โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173 และได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญอีกประการหนึ่งนั้นคือ วัดนี้เป็นสถานที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์(เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้าสังวาลย์ ซึ่งพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ในรัชสมัย พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
วัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อ พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสริมพระเจดีย์ให้ใหญ่และสูงขึ้นไป พร้อมกับการสร้างเจดีย์ยุทธหัตถีไว้ที่ตำบลหนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี เพื่อเฉลิมพระ เกียรติเมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถี พระราชทานนามวัดใหม่ไว้ว่า "วัดชัยมงคล" ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดใหญ่ชัยมงคล"
วัดหน้าพระเมรุ วัดนี้เป็นเพียงวัดเดียว ที่ไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลายไป ดังที่ทำกับวัดอื่นๆ เป็นเพราะ วัดนี้ยั้ยเป็นที่ตั้งทัพของ พระเจ้ากรุงหงสาวดี ที่ยึดเอาวัดนี้เป็นที่มั่นในการเจาะเข้าไปยัง พระบรมมหาราชวัง ซึ่งตั้งอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามเพียงเท่านั้น
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาก่อน สร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างขึ้น ตามพงศาวดารเหนือกล่าวไว้ว่า "พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก" และพระราชทานนามวัดว่า "วัดพระเจ้าพระนางเชิง" หรือ "วัดพระนางเชิง"
วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานไว้ว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีพระพุทธไสยาสน์ ยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร ก่ออิฐถือปูน พระพักตร์หันทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาททับซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน
วัดพระราม คาดไว้ว่าถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 1912 ในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1
ขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลาง
ภาพจาก : ทศพร สุภาพ
หาบทความหรือแนะนำที่เที่ยวได้อีกที่ http://travel.sanook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น