วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

โอทะเลแสนงาม...เมืองร้อยเกาะสดใจ..กินเงาะอร่อย...จ.สุราษฎร์ธานี

โอทะเลแสนงาม...เมืองร้อยเกาะสดใจ..กินเงาะอร่อย...จ.สุราษฎร์ธานี

'เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ'

สุราษฎร์ธานี จังหวัดท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เพราะธรรมชาติอันงดงาม ทั้งหมู่เกาะต่างๆ อย่าง เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะนางยวน เกาะเต่า หมู่เกาะอ่างทอง และพื้นที่ป่าดิบชื้นบนบกที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณหลากหลาย สายน้ำหลายสาย และสัตว์ป่านานาชนิด บทความนี้จะพาไปพบกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

อุทยานแห่งชาติเขาสก
สัมผัสผืนป่าที่มีความยิ่งใหญ่ลำดับต้นๆของภาคใต้ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อ.บ้านตาขุน อ.พนม และอ.คีรีรัฐนิคม ที่นี่ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ 2 สิงหาคม พ.ศ.2537 ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 461,712 ไร่ โดยมีสภาพเป็นภูเขาดินและภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนและดูน่าสนใจด้วยแนวหน้าผาสูงชัน ขณะเดียวกันทางด้านทิศเหนือเป็นที่ตั้งของเขื่อนรัชชประภา ที่มีบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อนที่สวยงาม เสียจนมีคนเปรียบเปรยว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสกนั้นเต็มไปด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมากมาย โดยกิจกรรมที่น่าสนใจก็ ได้แก่ เดินป่า นั่งช้าง ดูนก การล่องแก่ง และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ

สำหรับนักท่องเที่ยวธรรมชาติ การเดินป่าเขาสกเพื่อหาพืชพันธุ์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่เลย เป็นเหมือนความฝันที่พวกเขาหวังว่าจะทำให้ได้เป็นจริงสักครั้ง นั่นคือการตามหา “บัวผุด” หรือกระโถนฤๅษี ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางของตัวดอกโดยประมาณ 10-25 นิ้ว โดยบัวผุดนั้นมักขึ้นอยู่ตามพื้นดิน และจะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคม นอกจากนี้แล้วอาจพบปาล์มหลังขาว เป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้หายาก รวมทั้งสัตว์แปลกๆ ที่หายากและมีความน่าสนใจมากมาย เช่น กบทูด และปลามังกร

เขื่อนรัชชประภา
‘เขื่อนรัชชประภา’ หรือที่ รู้จักกันดีในชื่อ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” อันเป็นชื่อดั้งเดิม ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเขื่อนรัชชประภาที่ใช้ในปัจจุบัน อันเป็นชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง ตัวเขื่อนรัชชประภานั้น เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์มีความสูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร ทะเลสาบเหนือเขื่อนเต็มไปด้วย ภูเขาหินปูนธรรมชาติที่มีรูปร่างต่างๆ ชวนแปลกตา และเมื่อธรรมชาติได้ วางผืนน้ำเคียงข้างกำแพงแห่งขุนเขาหินปูน อย่างลงตัวราวกับบรรจงสร้างมาเลยทีเดียว ได้ทำให้ที่นี่กลายเป็นเหมือนโลกใบใหม่ที่คลุมด้วยความสงบงดงาม

หินตา หินยาย
‘หินตา หินยาย’ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่หินแกรนิตถูกกัดเซาะโดยน้ำทะเลและความร้อนจนกลายเป็นเป็นโขดหินรูปร่าง ประหลาด และชาวบ้านก็ตั้งชื่อให้ว่า “หินตาหินยาย” ทั้งนี้ ตำนานแห่งหินตาหินยายนั้นเป็นเรื่องท้องถิ่น ที่เล่าสืบกันมาว่า นานมาแล้ว ตายายคู่หนึ่ง ชื่อตาเครงกับยายเรียม ทั้งสองนั้นเป็นชาวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางโดยเรือใบเพื่อไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ลูกชายของตน ครั้นเรือได้แล่นมาถึงบริเวณอ่าวละไม เกาะสมุย แต่เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายจึงเสียชีวิตลง ร่างของทั้งสองถูกคลื่นซัดขึ้นเกยมาที่หาด จนกลายเป็นหินดังที่เห็นในปัจจุบัน

วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
ปูชนียสถานที่มีทั้งความเก่าแก่และความสำคัญมากที่สุดที่หนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสะท้อนเห็นถึงความเฟื่องฟูแห่งพุทธศาสนาที่มาหยั่งรากในภาคใต้ของไทย โดยองค์พระเจดีย์ สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายาน ในสมัยที่อาณาจักรศรีวิชัยยังคงครองความรุ่งเรือง รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็กๆอยู่ทั้ง 4 ทิศ ล้อมรอบไว้ด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปที่เก่าแก่ขนาดต่างๆ โดยรอบทั้ง 4 ด้าน การได้มาเยี่ยมชมวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารแห่งนี้นั้น จึงเป็นเหมือนการเปิดหน้าต่างบานใหญ่ที่จะทำให้เรามองเห็นภาพอันสวยงาม จากครั้งหนึ่งในอดีตของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ติดตามสถานที่น่าสนใจอื่นๆได้อีก http://travel.sanook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น